Category: ข่าวกีฬาฟุตบอล

แอสตัน วิลล่า พ่าย คริสตัล พาเลซ 1-2 ในศึกอีเอฟแอลคัพ 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย – ความเร้าใจเต็มพิกัดที่วิลล่าพาร์ค!

ในค่ำคืนนี้ที่วิลล่าพาร์ค ศึก อีเอฟแอลคัพ 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง แอสตัน วิลล่า และ คริสตัล พาเลซ กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจดจำสำหรับแฟนบอล วิลล่าที่ครองบอลได้เหนือกว่าต้องพบกับความผิดหวังเมื่อถูกคริสตัล พาเลซบุกมาเก็บชัยชนะด้วยสกอร์ 2-1 แม้จะได้เปรียบในสถิติการยิงและการครองบอล แต่พาเลซโชว์ความเฉียบขาดที่ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

ครึ่งแรก

เกมเริ่มต้นได้เพียง 8 นาที พาเลสเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อนด้วยการทำประตูขึ้นนำจาก เอเบเรชี่ เอเซ ในนาทีที่ 8 สร้างความกดดันให้กับเจ้าบ้าน แต่ แอสตัน วิลล่า ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาตีเสมอได้ในนาทีที่ 23 จากการทำประตูของ จอห์น ดูรัน ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1

ครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมพยายามหาโอกาสทำประตูเพื่อให้ทีมของตนเป็นฝ่ายขึ้นนำ และแล้วในนาทีที่ 64 ไดชิ คามาดะ ทำประตูที่สองให้คริสตัล พาเลซนำ 2-1 ทำให้วิลล่าต้องเร่งเครื่องเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถฝ่าด่านแนวรับของพาเลซได้ จบเกมไปด้วยชัยชนะของทีมเยือน

สถิติการแข่งขัน

แม้แอสตัน วิลล่าจะครองบอลได้ถึง 63% และมีโอกาสยิงถึง 17 ครั้ง แต่พาเลซที่ครองบอลเพียง 37% กลับสามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้ถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดของเกมบุกที่มีประสิทธิภาพ สำหรับความแม่นยำในการส่งบอล วิลล่ามีค่าเฉลี่ยที่ 86% ขณะที่พาเลซมีอยู่ที่ 75% แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นในเกมรับของทั้งสองทีม

เหตุการณ์สำคัญในเกม

• ⚽ นาทีที่ 8 เอเบเรชี่ เอเซ ยิงประตูให้ คริสตัล พาเลซ ขึ้นนำ 1-0
• ⚽ นาทีที่ 23 จอห์น ดูรัน ยิงประตูตีเสมอให้กับ แอสตัน วิลล่า เป็น 1-1
• ⚽ นาทีที่ 64 ไดชิ คามาดะ ยิงประตูให้พาเลซขึ้นนำ 2-1
• 🟨 นาทีที่ 27 ไทโรน มิงส์ โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
• 🟨 นาทีที่ 67 ดีเอโก้ คาร์ลอส รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์
• 🟨 นาทีที่ 90 มาร์ค เกฮี โดนใบเหลืองจากการฟาวล์ในช่วงท้ายเกม
• 🟨 นาทีที่ 90+1 ดาเนี่ยล มูญอซ รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์
• 🔄 นาทีที่ 88 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ออกจากสนาม และ เนธาน คไลน์ ลงสนามแทน
• 🔄 นาทีที่ 79 ลีออน เบลี่ย์ ออกจากสนาม และ คีแรน ยัง ลงสนามแทน
• 🔄 นาทีที่ 78 จอห์น แม็คกินน์ ออกจากสนาม และ ลูคัส โบการ์เด้ ลงสนามแทน

ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกม (Player of the Match) 🏆 แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตูของคริสตัล พาเลซ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมด้วยคะแนน 8.2 หลังจากเซฟลูกยิงสำคัญหลายครั้ง ช่วยให้ทีมของเขาคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด

สถานการณ์ในตารางคะแนน

คริสตัล พาเลซผ่านเข้าสู่รอบถัดไปของ อีเอฟแอลคัพ อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยความสามารถที่ยืนหยัดในสถานการณ์ที่กดดัน ส่วนแอสตัน วิลล่าต้องพบกับความผิดหวังจากการตกรอบครั้งนี้

การแข่งขันนัดถัดไปของแอสตัน วิลล่า แอสตัน วิลล่าจะกลับมาลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ถัดไป พวกเขาต้องเตรียมทีมเพื่อกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในลีกหลังจากพ่ายแพ้ในรายการนี้ ติดตามผลบอลสดได้ที่ บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

ที่มา :ผลบอลอีเอฟแอลคัพ 2024 ระหว่าง แอสตัน วิลล่า 1-2 คริสตัล พาเลซ วันนี้ 31/10/67 – บ้านกีฬา

ติอาโก้ ซานโตส แบ็กขวาชาวโปรตุกีส ตัดสินใจขยายสัญญากับ ลีลล์ จนถึงปี 2029 เพื่อแสดงความมุ่งมั่นต่อสโมสร

ลีลล์ ยืนยันการขยายสัญญากับ ติอาโก้ ซานโตส แบ็กขวาวัย 22 ปีให้ยาวไปถึงปี 2029 โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นักเตะตกเป็นเป้าสนใจของ บาร์เซโลน่า ที่กำลังมองหาผู้เล่นในตำแหน่งนี้อยู่ ซานโตส ย้ายจาก เอสโตริล มาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2023 ด้วยค่าตัว 6.5 ล้านยูโรและสามารถปรับตัวเข้ากับเกมของ ลีลล์ ได้อย่างรวดเร็ว เขาได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะหลักของทีมและทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนทำให้สโมสรอื่นๆ ให้ความสนใจ แต่ ลีลล์ ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเก็บตัวนักเตะไว้ และล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงในการขยายสัญญาเป็นที่เรียบร้อย แถลงการณ์จากสโมสรระบุว่า การต่อสัญญาครั้งนี้สะท้อนถึงความไว้วางใจและความทะเยอทะยานร่วมกันระหว่างนักเตะกับสโมสร

ที่มา :ลีลล์ ประกาศขยายสัญญา ติอาโก้ ซานโตส ถึงปี 2029 หลังมีข่าวกับ บาร์เซโลน่า

เลกิ๊ป สื่อกีฬาชื่อดังจากฝรั่งเศส ออกมาเผยการให้คะแนนสุดโหดถึง เมสัน กรีนวู้ด ดาวยิงของทีม โอลิมปิก มาร์กเซย โดยให้คะแนนเพียงแค่ 1 เต็ม 10 หลังเกมที่ต้นสังกัดพ่ายแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบยับเยิน 0-3 คาบ้าน สต๊าด เวโลโดรม ซึ่งการให้คะแนนต่ำสุดนี้สะท้อนถึงฟอร์มการเล่นที่เลวร้ายจนทำให้กรีนวู้ดถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ช่วงพักครึ่ง

ในแมตช์ที่เป็นบิ๊กแมตช์นี้ กรีนวู้ดถูกส่งลงเป็นตัวจริงเพื่อเป็นความหวังในแนวรุกของทีม แต่นักเตะหนุ่มชาวอังกฤษกลับไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสหรือประโยชน์ใด ๆ ให้กับทีมได้เลย จนทำให้ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือของมาร์กเซยต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออกในช่วงพักครึ่งทันที ซึ่งในตอนนั้นทีมตามหลังปารีส แซงต์-แชร์กแมงไปแล้ว 3 ประตู และไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาสู้ได้

เลกิ๊ป ที่ขึ้นชื่อเรื่องการวิจารณ์ตรงไปตรงมา ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า กรีนวู้ดได้เพียงแค่ 1 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนต่ำสุดที่สื่อแห่งนี้ให้ได้ เนื่องจากมีกฎการให้คะแนนตั้งแต่ 1 ถึง 10 เท่านั้น สื่อยังได้กล่าวถึงฟอร์มการเล่นของกรีนวู้ดว่า “เด แซร์บี้รอถึงครึ่งแรกกว่าที่จะถอดเขาออก แต่กระนั้นยังถือว่าสายไปแล้ว ฟอร์มการเล่นของเขานั้นน่าผิดหวังอย่างยิ่ง ช่วงที่ไม่ได้บอล เขาดูไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร เขาเดินเหยาะๆ ตอนที่ทีมเสียประตูแรก และยังผ่านบอลผิดพลาดก่อนจะเสียประตูที่สาม เป็นฟอร์มการเล่นที่น่าอัปยศสิ้นดี”

ด้าน โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ยอมรับหลังเกมว่าเขาผิดหวังอย่างมากกับฟอร์มการเล่นของกรีนวู้ด โดยให้สัมภาษณ์ว่า “ในฐานะนักเตะ คุณจะมาบอกว่าทำได้ดีจากการยิงประตูเพียงนัดเดียวไม่ได้หรอก แต่ถ้าเกมต่อไปเล่นได้แย่ ฟอร์มแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่คาดหวัง ผมรู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี แต่ในเกมนี้ ผมคาดหวังผลงานที่ดีกว่านี้ ที่จริงไม่ใช่แค่กับเขาหรอก แต่ผมคาดหวังมากกว่านี้จากทุกคน”

ที่มา :เละไม่เป็นท่า! สื่อฝรั่งเศสจัดให้ เมสัน กรีนวู้ด คะแนนต่ำสุดหลังฟอร์มดับเกมปารีส – บ้านกีฬา

เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล เสมอ เตเนริเฟ่ สุดเข้มข้น 1-1 ในศึกเซกุนด้า ดิวิชั่น 2024

การแข่งขัน เซกุนด้า ดิวิชั่น 2024 ระหว่าง เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล และ เตเนริเฟ่ จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ในการดวลกันที่เต็มไปด้วยการปะทะและความดุดัน เกมนี้เต็มไปด้วยโอกาสยิงประตูและการเล่นที่ดุเดือดจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งทำให้แฟนบอลต่างลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ

ครึ่งแรก เตเนริเฟ่เริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วและสามารถทำประตูขึ้นนำไปได้ในนาทีที่ 13 จาก อันริก กาเยโก้ หลังจากนั้นเพียงสองนาที เอเนโก้ เฆาราจิ ของเรซซิ่ง เดอ เฟอรอล สามารถยิงตีเสมอได้ทันทีจากการแอสซิสต์ของ เจ. ดอร์ริโอ ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งทั้งสองทีมเล่นกันอย่างเข้มข้นโดยไม่ยอมเสียเปรียบ

ครึ่งหลัง การแข่งขันยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเรซซิ่ง เดอ เฟอรอล มีโอกาสครองบอลมากกว่า แต่เตเนริเฟ่ยังคงทำเกมสวนกลับได้ดี ในช่วงนาทีที่ 85 อเล็กซ่า ปูริช ของเรซซิ่ง เดอ เฟอรอล โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมต้องเล่นเพียง 10 คนจนจบเกม สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1

สถิติการแข่งขัน

เรซซิ่ง เดอ เฟอรอลมีการครองบอลมากถึง 63% และสามารถส่งบอลได้ 401 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 81% ส่วนทางเตเนริเฟ่ครองบอลเพียง 37% และส่งบอล 247 ครั้ง แต่ยังสามารถสร้างโอกาสยิงได้ถึง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมสวนกลับที่ยอดเยี่ยมของเตเนริเฟ่

เหตุการณ์สำคัญ

• ⚽ ประตู:
  • นาทีที่ 13 – อันริก กาเยโก้ ยิงให้เตเนริเฟ่นำ 1-0
  • นาทีที่ 15 – เอเนโก้ เฆาราจิ ยิงให้เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล ตีเสมอ 1-1
• 🟨 ใบเหลือง:
  • นาทีที่ 46 – F. Medrano (เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล)
  • นาทีที่ 66 – D. R. Ramos (เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล)
• 🟥 ใบแดง:
  • นาทีที่ 85 – อเล็กซ่า ปูริช (เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล)
• 🔄 เปลี่ยนตัว:
  • นาทีที่ 46 – J. Dorrio ออก, Nacho เข้า (เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล)
  • นาทีที่ 58 – A. Puric ออก, D. R. Ramos เข้า (เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล)
  • นาทีที่ 69 – A. López ออก, Bebé เข้า (เตเนริเฟ่)
  • นาทีที่ 75 – M. Delgado ออก, Róber เข้า (เตเนริเฟ่)
  • นาทีที่ 89 – E. Gallego ออก, A. Rodríguez เข้า (เตเนริเฟ่)
  • นาทีที่ 89 – Y. Diarra ออก, M. Moreno เข้า (เตเนริเฟ่)

ผู้เล่นยอดเยี่ยม

⭐ Player of the Match: อัลบาโร่ ซานซ์ คาตาลัน จากเรซซิ่ง เดอ เฟอรอล ด้วยการควบคุมเกมและสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดการแข่งขัน

สถานการณ์ในตารางคะแนน

หลังเกมนี้ เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล ยังคงอยู่ในโซนท้ายตารางมี 12 คะแนน จากการลงเล่น 12 นัด ส่วนเตเนริเฟ่เองก็ยังคงต้องเร่งฟอร์มเพื่อหนีจากพื้นที่ท้ายตารางเช่นกันด้วยคะแนนเพียง 7 คะแนน ทั้งสองทีมยังคงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาสถานะในลีก

สำหรับแฟนบอลที่ติดตามผลงานของทั้งสองทีม สามารถเช็ค ผลบอลสด และ บ้านผลบอล ได้ที่บ้านกีฬาเพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของลีกเซกุนด้า ดิวิชั่น

ที่มา :ผลบอลเซกุนด้า ดิวิชั่น 2024 ระหว่าง เรซซิ่ง เดอ เฟอรอล 1-1 เตเนริเฟ่ วันนี้ 29/10/67 – บ้านกีฬา

เรอัล มาดริด ไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมงานประกาศรางวัลบัลลง ดอร์ 2024 เนื่องจากความไม่พอใจที่วินิซิอุส จูเนียร์ ไม่ได้รับรางวัล

          เรอัล มาดริด และนักเตะของสโมสรไม่เข้าร่วมงานประกาศรางวัลบัลลง ดอร์ เนื่องจาก วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลถูกมองข้ามจากการรับรางวัล แม้เขาจะมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงการฟุตบอล

          ความไม่พอใจนี้ส่งผลให้ ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ตัดสินใจยกเลิกแผนการเดินทางไปกรุงปารีส โดยให้ทีมงานและนักเตะอยู่ที่สโมสรแทน สื่อหลายสำนักรายงานว่า เปเรซรู้สึกโกรธที่ผลการตัดสินของบัลลง ดอร์ ทำให้ชื่อเสียงของสโมสรถูกทำลาย และได้มีการติดต่อไปยัง ฟร้องซ์ ฟุตบอล เพื่อขอดูคะแนนและคำอธิบายเกี่ยวกับการตัดสินในครั้งนี้

          การตัดสินใจของเรอัล มาดริด ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงการฟุตบอล แต่ยังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของแฟนบอลที่เชื่อมั่นในฟอร์มการเล่นของวินิซิอุส ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการชี้ให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนในการให้คะแนนของรางวัลบัลลง ดอร์ ทำให้เกิดความสงสัยในความน่าเชื่อถือของการตัดสินใจ

[รู้รอบสนาม]

• วินิซิอุส จูเนียร์ มีฤดูกาลที่น่าประทับใจ โดยทำประตูและแอสซิสต์ได้มากมาย
• โรดรี้ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นผู้ที่คาดว่าจะคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ในปีนี้
• เรอัล มาดริด เคยได้รับรางวัลบัลลง ดอร์ ถึง 12 ครั้ง โดยล่าสุดคือ ลูก้า โมดริช ในปี 2018

ที่มา :มาดริด ไม่ร่วมงานบัลลง ดอร์ เหตุวินิซิอุสพลาดรางวัล

พรีเมียร์ลีกอธิบายกรณีวีเออาร์ให้จุดโทษ เวสต์แฮม หลังปะทะในเขตโทษช่วงทดเจ็บ จนเป็นประตูชัยเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

          ในเกมที่ เวสต์แฮม เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 จังหวะสำคัญเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อมัทไธส์ เดอ ลิกต์ ปะทะกับแดนนี่ อิงส์ในเขตโทษ ซึ่งในตอนแรก เดวิด คู้ต ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อ แต่หลังจากได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ให้เช็กเหตุการณ์อีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจให้จุดโทษแก่เวสต์แฮม และจาร์ร็อด โบเว่นก็ทำประตูสำเร็จ ส่งผลให้เวสต์แฮม คว้าชัยไปในที่สุด

          พรีเมียร์ลีกชี้แจงผ่าน Premier League Match Centre ว่า วีเออาร์เห็นว่าการปะทะครั้งนี้มีการสัมผัสกันมากพอในส่วนขาของอิงส์ จึงแนะนำให้ผู้ตัดสินตรวจสอบที่จอมอนิเตอร์ข้างสนาม ก่อนคู้ตเปลี่ยนการตัดสินและให้จุดโทษกับเวสต์แฮม 

          ทั้งนี้ เอริค เทน ฮาก กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด แสดงความไม่พอใจกับการตัดสินดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ชัดเจนและน่ากังขา

[รู้รอบสนาม]

• วีเออาร์ มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการตัดสิน โดยเฉพาะจังหวะที่เป็นประเด็นถกเถียง
• การใช้จอมอนิเตอร์ข้างสนามเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ตัดสินในเหตุการณ์สำคัญ
• การโต้เถียงของกุนซือหลังเกมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรีเมียร์ลีกต้องชี้แจงเหตุการณ์

ที่มา :พรีเมียร์ลีกชี้แจงดราม่าจุดโทษท้ายเกม เวสต์แฮมเฉือนแมนยู

เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมคนสำคัญของ เชลซี ได้ออกมาเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของเกมที่พวกเขาเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาต้องคอยย้ำเตือนลูกทีมให้เล่นด้วยความเยือกเย็น และหลีกเลี่ยงการโยนยาวแบบไม่จำเป็น เพราะการทำเช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเปิดโอกาสให้ทีมคู่แข่งได้บอลกลับไปบุกใหม่โดยง่าย มาเรสก้าระบุว่าการเน้นเล่นบอลสั้นอย่างมีจังหวะจะช่วยให้ทีมมีโอกาสควบคุมเกมได้ดีกว่าและป้องกันการโดนสวนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ

ในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันนั้น เชลซีเสมอกับนิวคาสเซิ่ลอยู่ที่สกอร์ 1-1 และหลังเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที เชลซีก็ทำประตูขึ้นนำไปได้ สถานการณ์นี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล พยายามเร่งบุกเพื่อหาโอกาสทำประตูคืน จนทำให้เกิดช่องว่างในเกมรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มาเรสก้าเลือกที่จะเน้นให้ทีมของเขายึดการต่อบอลเป็นหลัก ส่งผลให้เชลซีสามารถคุมสถานการณ์ได้ดีและเก็บชัยชนะไว้ได้

มาเรสก้าเผยถึงแนวทางที่เขาเน้นกับลูกทีมว่า “เกมในวันนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าถ้าคุณเน้นโยนยาวเหมือนเกมบาสเก็ตบอล การบุกจังหวะเดียวและรีบเร่งโยนบอลอาจกลายเป็นปัญหาที่จะทำให้เราสูญเสียความได้เปรียบ นิวคาสเซิ่ลมีความแข็งแกร่งและทักษะในการเล่นเกมสวนกลับที่รวดเร็ว พวกเขาพร้อมจะใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์สูงสุด” มาเรสก้าอธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมต้องการให้ลูกทีมใจเย็น เพราะนี่คือเกมที่คุณต้องผ่านบอลให้ได้ 15, 20 หรือ 25 ครั้งในการทำเกมขึ้นหน้า”

เขายังเสริมว่า “ถ้าคุณบุกด้วยการโยนยาวอย่างเดียว อีกฝ่ายก็จะแย่งบอลกลับไปได้เร็วและอาจสร้างปัญหาให้เรา นี่คือเหตุผลที่ผมต้องตะโกนเตือนตลอดเกมว่า – ใจเย็นๆ ทำการผ่านบอลไปเรื่อยๆ อย่าหลงไปกับการโยนยาว – เพราะการเจอกับทีมแบบนี้ การยึดการเล่นที่มีจังหวะและการผ่านบอลหลายครั้งเป็นการป้องกันตัวเองให้ดีสุด หากพลาด ทีมของเราก็อาจถูกโจมตีอย่างหนัก”

ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ที่มา :เอ็นโซ่ มาเรสก้า กำชับแข้งเชลซี เล่นให้ใจเย็น อย่าหลงไปกับการโยนยาวในช่วงท้ายเกมเด็ดขาด! – บ้านกีฬา

แอสตัน วิลล่า พลาดชัยในบ้าน เสมอ บอร์นมัธ 1-1 ในช่วงทดเวลา!

ในศึก พรีเมียร์ลีก 2024 ที่เพิ่งจบลง แอสตัน วิลล่า ต้องพลาดโอกาสคว้าชัยในบ้านไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากถูก บอร์นมัธ ตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จบเกมที่สกอร์ 1-1 แม้ว่าจะทำเกมบุกได้ดีและครองบอลได้มากกว่า แต่บอร์นมัธสามารถเก็บแต้มสำคัญกลับบ้านได้ในนาทีสุดท้าย เรียกเสียงลั่นจากแฟนบอลที่ติดตาม ผลบอลสด ผ่าน บ้านผลบอล

ครึ่งแรก

เกมเริ่มต้นอย่างเข้มข้น แอสตัน วิลล่า ครองบอลได้ดีกว่า พยายามบุกเพื่อหาประตูขึ้นนำ แต่บอร์นมัธตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่นและใช้จังหวะโต้กลับเป็นหลัก ทำให้จบครึ่งแรกไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง

แอสตัน วิลล่า เริ่มเปิดเกมบุกอย่างหนัก และสามารถทำประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 76 จาก รอสส์ บาร์คลีย์ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+6 บอร์นมัธกลับมาตีเสมอได้สำเร็จจากการยิงของ เอวานิลซอน ทำให้จบเกมเสมอกันที่ 1-1 โดยที่แอสตัน วิลล่าต้องผิดหวังไปตามๆ กัน

สถิติการแข่งขัน

แอสตัน วิลล่ามีโอกาสยิงทั้งหมด 18 ครั้ง ตรงกรอบ 8 ครั้ง ในขณะที่บอร์นมัธมีโอกาสยิง 10 ครั้ง ตรงกรอบ 3 ครั้ง การครองบอลของแอสตัน วิลล่ามากถึง 57% และการส่งบอลมีความแม่นยำที่ 82% ส่วนบอร์นมัธครองบอลได้ 43% มีการส่งบอลทั้งหมด 325 ครั้ง และความแม่นยำอยู่ที่ 83% การแข่งขันมีการฟาวล์รวมกันถึง 26 ครั้ง โดยที่แอสตัน วิลล่าทำฟาวล์ 12 ครั้ง และบอร์นมัธทำฟาวล์ 14 ครั้ง ใบเหลืองเกิดขึ้นมากถึง 7 ใบในเกมนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความดุเดือดและความมุ่งมั่นของทั้งสองทีม

เหตุการณ์สำคัญในเกม

• ⚽ นาทีที่ 76: รอสส์ บาร์คลีย์ ยิงประตูให้แอสตัน วิลล่านำ 1-0
• ⚽ นาทีที่ 90+6: เอวานิลซอน ยิงตีเสมอให้บอร์นมัธ 1-1
• 🟨 นาทีที่ 10: เจ. คลูว์เวิร์ต โดนใบเหลือง
• 🟨 นาทีที่ 18: ยูรี ทีเลอม็องส์ โดนใบเหลือง
• 🟨 นาทีที่ 30: เอ. สมิธ โดนใบเหลือง
• 🟨 นาทีที่ 57: เจ. แม็คกินน์ โดนใบเหลือง
• 🟨 นาทีที่ 90: มาร์ค ทราเวอร์เนียร์ โดนใบเหลือง
• 🔄 การเปลี่ยนตัว: แอสตัน วิลล่าและบอร์นมัธมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายครั้ง เพื่อเสริมความสดใหม่ให้กับทีมในช่วงท้ายเกม

Player of the Match

คือ มาร์ค ทราเวอร์ส ผู้รักษาประตูจากบอร์นมัธ ด้วยคะแนน 8.6 ที่สามารถเซฟช่วยทีมไว้หลายจังหวะ ทำให้บอร์นมัธเก็บแต้มสำคัญออกไปได้อย่างน่าประทับใจ

สถานการณ์ในตารางคะแนน

การเสมอในนัดนี้ส่งผลให้ แอสตัน วิลล่ายังคงอยู่อันดับที่ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก 2024 ด้วยคะแนน 18 แต้ม ส่วนบอร์นมัธ อยู่ในอันดับที่ 11 มี 12 แต้ม ยังต้องเร่งฟอร์มในนัดถัดไปเพื่อไต่อันดับให้สูงขึ้น

แม้จะพ่ายบาร์เซโลน่า คาบ้านถึง 0-4 คาร์โล อันเชล็อตติ ยืนยันว่าผลลัพธ์นี้ไม่กระทบการลุ้นแชมป์ของเรอัล มาดริด

          คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์เรอัล มาดริด กล่าวถึงผลการแข่งขันที่บาร์เซโลน่าบุกชนะ เรอัล มาดริด 4-0 ที่ซานติอาโก เบร์นาเบวเมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่งทำให้บาร์ซ่าหนีห่างเป็น 6 แต้มในตารางคะแนน ลา ลีกา โดยถึงแม้จะเป็นการปราชัยครั้งสำคัญ อันเชล็อตติยังคงมองว่าเส้นทางลุ้นแชมป์ยังไม่สะเทือน 

          เขากล่าวว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมแพ้ 0-4 ให้กับคู่แข่งสำคัญอย่างบาร์ซ่า เพราะฤดูกาลที่แล้ว แม้จะแพ้ด้วยสกอร์เดียวกัน แต่สุดท้ายเรอัล มาดริด ก็ยังคว้าแชมป์ ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ

          อีกประเด็นที่ถูกถามถึงคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างสนามระหว่างการแข่งขัน ซึ่งดูเหมือนจะมีปัญหาระหว่างทีมงานของบาร์เซโลน่ากับม้านั่งของเรอัล มาดริด โดยอันเชล็อตติชี้แจงว่าเขาไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับ ฮานซี่ ฟลิค แต่รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของทีมงานฝ่ายตรงข้ามที่เขามองว่าไม่ให้เกียรติคู่แข่ง แต่ฟลิคก็เห็นด้วยกับคำวิจารณ์นี้และไม่ได้มีข้อขัดแย้งใดๆ ระหว่างตัวเขากับฟลิคเอง

[รู้รอบสนาม]

• เรอัล มาดริด มีสถิติชนะในเอล กลาซิโก้ 102 ครั้ง ขณะที่บาร์เซโลน่าชนะ 99 ครั้ง
• อันเชล็อตติ เคยพาเรอัล มาดริด คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ (ลีก, แชมเปี้ยนส์ ลีก, โกปา เดล เรย์) ในฤดูกาลเดียว 2013-2014
• ซานติอาโก เบร์นาเบว อยู่ระหว่างการปรับปรุงสนาม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า

ที่มา :อันเชยังเชื่อมั่น เส้นทางแชมป์ไม่สั่นคลอน