Category: ข่าวกีฬาฟุตบอล

โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ เปิดอก ถ้าหาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา อยากย้ายทีมจัดตนก็พร้อมที่จะเปิดไฟเขียว เพราะไม่ต้องการนักเตะที่ไม่มีความสุขสำหรับการเล่นให้ทีม แต่ยืนยันว่าส่วนตัวแล้วอยากให้ ซิลวา อยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ต่อไป

โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่าจะไม่ขวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา แน่นอนหากปีกชาวโปรตุกีสอยากย้ายทีมสถานเดียว หลังจาก ซิลวา ตกเป็นข่าวกับ บาร์เซโลน่า อย่างต่อเนื่อง

เป็นที่เชื่อกันว่า บาร์เซโลน่า แอลเหล่ ซิลวา มาตั้งนานแล้ว ขณะที่แข้งดีกรีทีมชาติโปรตุเกสก็แอบมีใจให้กับ “อาซูลกราน่า” อยู่บ้างเช่นกัน แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีความคืบหน้าในการล่าตัวเขามากนัก ซึ่งเชื่อกันว่าสาเหตุเป็นเพราะปัญหาด้านการเงินของ บาร์เซโลน่า นั่นเอง

“เราอยากให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา อยู่กับเราต่อไป แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ต้องการนักเตะที่ไม่มีความสุขที่จะอยู่กับทีม อันดับแรก (ที่จะทำให้การย้ายทีมเกิดขึ้นได้) น่ะทั้ง 2 สโมสรก็ต้องบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ซะก่อน แน่นอนว่าผมอยากมีเขาอยู่ในทีมของผม แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ชอบ เอฟซี บาร์เซโลน่า มากๆ” กวาร์ดิโอล่า ระบุ

ในที่สุดการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022/2023 ก็จะเปิดฉากขึ้นในช่วงเดือนกันยายนนี้ 4 ตัวแทนจากอังกฤษได้แก่ แมนเชเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เตรียมที่จะได้พบกับสถานการณ์ที่สุดตื่นเต้นของพวกเขาในการจับสลากแบ่งกลุ่มที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.นี้

สำหรับตอนนี้ก็ได้จำนวนทีมที่จะฟาดฟันเพื่อชิงชัยโทรฟี่ “บิ๊กเอียร์” ครบ 32 ทีมแล้ว โดยงานนี้ต้องบอกเลยว่าสี่ยอดกุมารจากลีกสูงสุดเมืองผู้ดี มีโอกาสที่จะจับสลากพบกับคู่แข่งที่ยากสุดหิน และง่ายสุดกู่ในรอบแบ่งกลุ่ม

อย่างไรก็ตามทุกๆ ทีมที่มีโอกาสได้เข้ามาเล่นแทงบอลในแชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าไม่ใช่ทีมที่จะปราบได้ง่ายๆ ซึ่งในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาแฟนบอลก็คงได้เห็นกันแล้ว ฉะนั้นต่อให้ “หงส์แดง”, “เรือใบสีฟ้า”, “สิงโตน้ำเงินคราม” และ “ไก่เดือยทอง” จะอยู่ในกลุ่มไหน พวกเขาก็มีสิทธิ์ชนะและพ่ายคู่แข่งร่วมกลุ่มได้เช่นกัน

สรุปโถสำหรับการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022/2023

โถ 1 – เรอัล มาดริด (แชมป์เก่า/สเปน), ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต (แชมป์ยูโรปา ลีก/เยอรมนี), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), เอซี มิลาน (อิตาลี), บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)

โถ 2 – ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), เชลซี (อังกฤษ), บาร์เซโลน่า (สเปน), ยูเวนตุส (อิตาลี), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), เซบีย่า (สเปน), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ)

โถ 3 – โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์ (ยูเครน), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), นาโปลี (อิตาลี), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส), ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี)

โถ 4 – โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส), คลับ บรูช (เบลเยียม), กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์), มัคคาบี้ ไฮฟา (อิสราเอล), วิคตอเรีย พัลเซ่น (สาธารณรัฐเช็ก), เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์), โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) , ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)

จากการแบ่งโถทั้งหมด งานนี้ 4 สโมสรจากอังกฤษ มีโอกาสที่จะได้เจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มของพวกเขา แถมบางทีมในเมืองผู้ดีอาจดวงเฮงได้จับอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย หรือ “กรุ๊ป ออฟ เดธ”

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ง่ายสุด : แอร์เบ ไลป์ซิก, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, มัคคาบี้ ไฮฟา

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ยากสุด : บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน, โอลิมปิก มาร์กเซย

ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทัพ “เรือใบสีฟ้า” ได้สิทธิ์อยู่ในโถ 1 แน่นอนว่ามันทำให้พวกเขาไม่ต้องเจอกับยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมทั้ง 3 ทีมร่วมลีกที่อยู่ในโถ 2

อย่างไรก็ตามทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสที่จะได้เจอกับหนึ่งในทีมที่แข็งโป๊กได้แก่ บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส, แอตเลติโก มาดริด, เซบีย่า หรือ แอร์เบ ไลป์ซิก

สำหรับ บาร์ซ่า แม้จะมีปัญหาภายในเรื่องการเงินแต่พวกเขาก็มีการเสริมทัพที่ค่อนข้างน่ากลัว โดยเฉพาะการได้นักเตะอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ราฟินญ่า และ ฌูลส์ กุนเด้ มาร่วมทัพ ทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะแก้ตัวหลังโดนเขี่ยตกรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

ขณะที่ ไลป์ซิก ซึ่งเคยอยู่กลุ่มเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ และจบอันดับ 3 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในโถ 2 มีโอกาสอีกครั้งที่พวกเขาจะได้เจอกับยอดทีมแห่งถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

ด้าน โถ 3 อินเตอร์ มิลาน ซึ่งได้ โรเมลู ลูกากู กลับมาล่าตาข่ายอีกครั้ง เป็นหนึ่งในทีมที่อาจจะได้จับมาอยู่กลุ่มเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ ส่วน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่อ่อนยวบลงหลังขาย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ก็มีสิทธิ์ได้เจอกับพวกเขา แต่ถ้าดวงเฮงอาจได้เจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งไม่ค่อยอันตรายมากนัก

สำหรับ โถ 4 ต้องบอกเลยว่ามีแต่ทีมขนมกรุบสำหรับแมนฯ ซิตี้ แต่ทีมที่น่าจะแข็งที่สุดในโถนี้ก็คือ โอลิมปิก มาร์กเซย ส่วนคู่แข่งที่ต้องบอกว่าอ่อนสุดก็คงเป็น มัคคาบี้ ไฮฟา ที่เข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 แต่ข้อเสียก็คือต้องเดินทางไกลในการไปเยือนพวกเขา

ลิเวอร์พูล

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ง่ายสุด : ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, มัคคาบี้ ไฮฟา

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ยากสุด : เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, โอลิมปิก มาร์กเซย

การที่ ลิเวอร์พูล อยู่ในโถ 2 พวกเขามีโอกาสสูงมากๆ ที่จะต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งในโถ 1 ยกเว้น แมนฯ ซิตี้ ทีมร่วมลีก และงานนี้ถ้าจับพลัดจับผลูได้เจอกับ เรอัล มาดริด ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้แก้แค้นหลังโดน “ราชันชุดขาว” ปราบในนัดชิงถ้วยใบโตยุโรปเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แต่ บาเยิร์น มิวนิค, เอซี มิลาน หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็โหดไม่ใช่เล่น

กระนั้นในโถ 1 มี ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต รวมอยู่ด้วยเนื่องจากพวกเขาได้สิทธิ์ในฐานะแชมป์ยูโรปา ลีก ดังนั้นต้องยอมรับว่าน่าจะเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในโถนี้ ที่สำคัญพวกเขาได้กลับมาเล่นในรายการนี้ซีซั่นแรกนับตั้งแต่ปี 1960 ดังนั้นประสบการณ์ในถ้วย “บิ๊กเอียร์” ไม่มีเลย

ส่วนคู่แข่งที่อันตรายที่สุดในโถ 3 ก็คือ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งบุกมาคว่ำ “หงส์แดง” ถึงถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ขณะที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในฐานะคู่แข่งที่ไม่ค่อยอันตรายมากนัก

ตบท้าย โถ 4 ถ้าหากดวงเฮงทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะได้ มัคคาบี้ ไฮฟา หรือ วิคตอเรีย พัลเซ่น มาอยู่รวมกลุ่ม แต่ถ้าโชคร้ายงานนี้มีสิทธิ์ได้ปะทะกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ก็ได้

เชลซี

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ง่ายสุด : ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, มัคคาบี้ ไฮฟา

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ยากสุด : เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, โอลิมปิก มาร์กเซย

เชลซี มีโอกาสที่จะได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งสุดหินคล้ายๆ กับ ลิเวอร์พูล เพราะทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” อาจจะได้เจอทั้ง เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค หรือ “เปแอสเช” ซึ่งมองมุมไหนแล้ว “ราชันชุดขาว” ถือว่าโหดที่สุด

ขณะที่คู่แข่งที่ด้อยสุดก็ต้องเป็น แฟร้งค์เฟิร์ต ซึ่ง เชลซี เคยชนะจุดโทษ ในรอบตัดเชือก ยูโรปา ลีก ปี 2019 แต่กระนั้นทีมของกุนซือโธมัส ทูเคิ่ล ก็อาจจะได้ปะทะกับ เอฟซี ปอร์โต้ และ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยเช่นกัน

กระนั้น “สิงห์บลูส์” อาจเจอโชคชะตาเล่นตลกหากพวกเขาจับสลากไปพบกับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งยืม ลูกากู ไปร่วมทัพ กระนั้นพวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้พบกับคู่แข่งที่ไม่ค่อยแข็งอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน หรือ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ส่วนคู่แข่งที่ไม่ค่อยอันตรายสำหรับ เชลซี ในโถ 4 ก็คงเป็น มัคคาบี้ ไฮฟา แต่กระนั้นในโถนี้ยังมีคู่ต่อกรที่น่ากลัวอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย ซึ่งถ้าเลี่ยงได้ก็คงดีแต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสู้กันไป

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ง่ายสุด : ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, มัคคาบี้ ไฮฟา

ความเป็นไปได้ในการเจอคู่แข่งที่ยากสุด : เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, โอลิมปิก มาร์กเซย

สเปอร์ส ยุค อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องบอกว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งจริงๆ แต่สำหรับในแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาอาจจะมีประสบการณ์ไม่มาก ฉะนั้นถ้าหากเลือกได้คงอยากเจอคู่แข่งที่อันตรายน้อยหน่อยอย่างเช่น แฟร้งค์เฟิร์ต แต่กระนั้นก็มีสิทธิ์ได้ดวลกับ อาแจ็กซ์ คู่อริเก่าที่เคยปะทะกันมาแล้วในรอบตัดเชือกปี 2019

อย่างไรก็ตาม “ไก่เดือยทอง” อาจจะดวงแตกสุดๆ ถ้าหากดันจับสลากไปพบกับ เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, เอซี มิลาน หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ สเปอร์ส คงจะสวดภาวนาไม่ให้เจอกับทีมเหล่านี้ในรอบแบ่งกลุ่ม

ขณะที่ในโถ 3 สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นออปชั่นที่ดีที่สุดถ้าหาก สเปอร์ส สามารถเลือกได้ แต่ถ้าหากโชคชะตาอยากให้พวกเขาต้องเหนื่อยก็มีสิทธิ์จะได้พบกับ อินเตอร์ ซึ่ง คอนเต้ เคยนำทัพคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์, นาโปลี กับ เบนฟิก้า ก็เป็นคู่แข่งที่หินแต่ไม่เท่ากับทัพ “งูใหญ่”

ในส่วนของ โถสุดท้าย มัคคาบี้ ไฮฟา เป็นออปชั่นที่ดีที่สุด หรือจะเป็น วิคตอเรีย พัลเซ่น ก็ได้ แต่ถ้าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอาจได้เห็นพวกเขาเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อปะทะกับ มาร์กเซย ที่มีเด็กเก่าของ อาร์เซน่อล ทั้ง มัตเตโอ เกนดูซี่, นูโน่ ตาวาเรส และ อเล็กซิส ซานเชซ ร่วมทัพ เช่นกัน

เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ ระบุ ยกให้ คาริม เบนเซม่า เป็นแรงบันดาลใจเรื่องการพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมบอกว่าจะไม่เหลิงกับพวกคำชมหรือชื่อเสียงที่ได้รับแน่

เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่าตนมี คาริม เบนเซม่า ดาวยิง เรอัล มาดริด เป็นแรงบันดาลใจในด้านการพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หลังจากที่ เบนเซม่า สามารถทำผลงานได้อย่างสุดยอดทั้งที่มีอายุเยอะแล้ว

ฮาลันด์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้ารุ่นใหม่ที่เก่งที่สุดของวงการฟุตบอล หลังจากที่มีฝีเท้าอันยอดเยี่ยมทั้งที่เพิ่งมีอายุแค่ 22 ปี ขณะที่ เบนเซม่า ได้รับคำชมอย่างมากจากการที่ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งที่มีอายุเยอะแล้ว

“ลองดู คาริม เบนเซม่า สิ เขาอายุ 34 ปีแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็พัฒนาตัวเองไปเป็นนักเตะที่เก่งยิ่งกว่าเดิมได้อีกในช่วง 2 ปีหลังสุด นั่นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากๆ” ดาวเตะชาวนอร์เวย์ ระบุ

ฮาลันด์ เสริมว่าตนจะไม่เหลิงกับบรรดาคำชมจากฝ่ายต่างๆ อย่างแน่นอน “ผมไม่ได้ดี๊ด๊ากับเรื่องชื่อเสียงมากนัก และต่อให้สักวันหนึ่งผมจะเปลี่ยนไปผมก็ยังมีคนมากพอที่จะเตือนสติผม ซึ่งคนในกลุ่มนั้นน่ะไม่ได้มีแค่คุณพ่อของผมด้วย”

เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวคนดัง คอนเฟิร์ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มีการทาบทาม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เพื่อขอยืมตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารจอมเก๋าเลือดสโลวัก มาใช้งาน โดยหวังให้มาช่วยกระตุ้นฟอร์ม ดาบิด เด เคอา โกลมือหนึ่งประจำทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ยื่นข้อเสนอขอยืมตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตู นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาใช้งาน ตามรายงานจาก เดวิด ออร์นสตีน ผู้สื่อข่าวคนดังแห่ง ดิ แอธเลติก เมื่อวันพุธที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” อยากได้ผู้รักษาประตูคนใหม่ เพื่อมาเพิ่มการแข่งขันให้กับ ดาบิด เด เคอา นายทวารมือหนึ่งชาวสแปนิช โดยก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวเกี่ยวโยงกับ เควิน ทรัปป์ นายประตูเลือดเบียร์ของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต และ ยานน์ ซอมเมอร์ โกลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

กระนั้นล่าสุด ออร์นสตีน ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้หันมาเอาจริงกับการคว้าตัว ดูบราฟก้า มาร่วมทีมแบบสัญญายืมตัว และได้มีการยื่นข้อเสนอให้ นิวคาสเซิ่ล พิจารณาเรียบร้อย

สำหรับฤดูกาลนี้ นายด่านทีมชาติสโลวาเกียวัย 33 ปี ตกเป็นโกลมือสองในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค หลังจากที่ นิวคาสเซิ่ล คว้า นิค โป๊ป นายทวารทีมชาติอังกฤษ มาจาก เบิร์นลี่ย์ เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน

“เจ้าสัวน้อย” อัสสัมชัญธนบุรี สามารถเอาชนะ สุรศักดิ์มนตรี ไปด้วยสกอร์ 3-1 ประเดิม 3 คะแนนแรกไปอย่างสวยงาม

โค้งสุดท้ายเลกแรกเดือด ฟุตซอลไทยลีก มิดวีค 7 คู่ พุธ 24 ส.ค.นี้ บิ๊กแมตซ์ จ่าฝูงไร้พ่าย “โต๊ะเล็กสิงห์คลองเตย”การท่าเรือ เอเอสเอ็ม จัดชุดฟูลทัพรับ “อัศวินเมืองหลวง” แบงค็อก บีทีเอส ได้ดาวซัลโว พีระพล สัตย์ซื่อ พ้นแบนกลับมาแล้ว ขณะที่ท้ายตารางหนีตายอุตลุด “อัศวินรุกฆาต”เชสส์ มหาสารคาม เปิดบ้านหวังปลดล็อคแต้มแรกในลีก ดวล “ตะหานน้ำ”ราชนาวี ที่คาบลูกคาบดอกโซนตกชั้น T-SPORTS 7 ยิงสดจากมหาสารคาม ส่วน AIS PLAY ถ่ายทอดสดครบทุกคู่

โอลิมปิก มาร์กเซย ประกาศคว้าตัว อเล็กซิส ซานเชซ เข้าร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว หลังแข้งจอมเก๋ายกเลิกสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน

มาร์กเซย เป็นทีมที่มีข่าวและเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเขาไปร่วมทีมและล่าสุดสโมสรดังลีกเอิงก็ประกาศยืนยันดีลอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม อเล็กซิส ยังต้องเข้ารับการตรวจร่างกายตามขั้นตอน ก่อนที่จะเซ็นสัญญา 2 ปี เพื่อเล่นในลีกเอิง

อเล็กซิส เดินทางถึงฝรั่งเศสแล้วและคาดว่าฤดูกาลหน้าเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 70 ลงสนามให้มาร์กเซย

ทั้งนี้ อเล็กซิส ที่ผ่านการเล่นให้ทีมชาติชิลี 143 นัด เริ่มต้นค้าแข้งในยุโรปกับ อูดิเนเซ่ ก่อนย้ายไป บาร์เซโลน่า ตามด้วย อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 17 รายการตลอดอาชีพค้าแข้ง